ตร. ชี้แจงกรณี ‘ลุงพล’ นั่ง เฮลิคอปเตอร์ ใช้งบสามแสนบาท

ตร. ชี้แจงกรณี ‘ลุงพล’ นั่ง เฮลิคอปเตอร์ ใช้งบสามแสนบาท

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาชี้แจงหลังมีเพจเฟซบุ๊กแฉว่า ลุงพล นั่ง เฮลิคอปเตอร์ ใช้งบประมาณถึงสามแสน ยันเป็นตามกระบวนการ พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษกตร.) ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเดลินิวส์ หลังจากที่มีเพจเฟซบุ๊กออกมาแฉว่า ค่าใช้จ่ายในการบินเพื่อนำตัวลุงพล ไปดำเนินคดีที่ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร มีค่าใช้จ่ายชั่วโมงละ 70,000 บาท หลังจากส่งตัวลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฆาตกรรมน้องชมพู่ ไปดำเนินคดีเสร็จสิ้น โดยเที่ยวกลับต้องนำตำรวจที่ควบคุมตัวลุงพลไปส่งกลับมาที่กรุงเทพฯ

รวมระยะเวลาภารกิจนำผู้ต้องหาตามหมายจับขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตำรวจไปดำเนินคดี 

รวม 4 ชั่วโมง 40 นาที มีค่าใช้จ่ายกว่า 3 แสนบาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียไป ทางเพจจึงตั้งคำถามว่า “งบประมาณนั้นส่วนหนึ่งมาจากภาษีของประชาชนหรือไม่อย่างไร” พล.ต.ต. ยิ่งยศ ระบุว่า กรณีดังกล่าวว่าการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบการใช้อากาศยานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการเลือกใช้เฮลิคอปเตอร์จะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร และระยะเวลา

ซึ่งโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวอีกว่า เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวเป็นเครื่องประจำการที่ใช้ในภารกิจหลักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว ไม่ใช่เครื่อง VIP ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ให้สิทธิพิเศษกับผู้ต้องหาคนใดคนหนึ่งอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ ทนายตั้มเผยว่าตน เตรียมหลักทรัพย์ เงินสด 500,000 บาท และโฉนดที่ดิน อีก 2 แปลง ซึ่งเป็นคนแฟนคลับลุงพลนำมาให้ รวมมูลค่า 170,000 บาท เพื่อขอประกันตัว ในชั้นศาล

ศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้ตั้งข้อหาลุงพล สามข้อหาด้วยกัน ได้แก่ พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

สโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และให้ความสําคัญต่อการ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการคุกคามทางเพศ และจะดําเนินการออกแบบกิจกรรมที่จะส่งเสริมความเท่าเทียม ทางเพศผ่านการทํากิจกรรมภายใต้การบริหารงานขององค์การบริหารสโมสรนิสิตฯ และมีมาตรการป้องกันมิ ให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศในสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กิจกรรมภาคนิสิตในทุกคณะและใน หอพักจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สุดท้ายนี้ สโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอให้ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีมาตรการรองรับ เมื่อเกิดเหตุการคุกคามทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นในระดับระหว่างนิสิต อาจารย์ หรือบุคลากรก็ตาม ทั้งในด้านการ ทํามาตรการป้องกันและแก้ไข รวมถึงกระบวนการร้องทุกข์และช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อ “สร้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสําหรับทุกคนอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงกัน

ทนายตั้ม เผยเตรียมยื่นเงินหลายแสนขอ ประกันตัว ลุงพล

ทนายตั้ม เผย เตรียมเงิน 500,000 บาท เพื่อยื่นขอ ประกันตัว ลุงพล พร้อมถาม ตร. ขอให้พูดชัดเจนถึงหลักฐานเด็ดและเรื่องของ DNA

ทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายของลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายศาลในคดีฆาตกรรมน้องชมพู่ ได้ออกมาตั้งข้อสงสัย ในพยานหลักฐานของตำรวจ โดยเฉพาะเรื่องดีเอ็นเอ ที่ตำรวจว่าหลักฐานเด็ดคืออะไร ดีเอ็นเอในเส้นผม เกี่ยวโยงกับคนใกล้ชิดลุงพล ซึ่งหมายถึงป้าแต๋น ภรรยาของนายไชย์พล ได้อย่างไร อะไรชี้ชัด ตำรวจต้องพูดให้ชัดเจน

นอกจากนี้ทนายตั้มยังกล่าวว่า เตรียมหลักทรัพย์ เงินสด 500,000 บาท และโฉนดที่ดิน อีก 2 แปลง ซึ่งเป็นคนแฟนคลับลุงพลนำมาให้ รวมมูลค่า 170,000 บาท เพื่อขอประกันตัว ในชั้นศาล

ก่อนหน้านี้ ศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้ตั้งข้อหาลุงพล สามข้อหาด้วยกัน ได้แก่ พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

ศาลจังหวัดชลบุรี สั่งแก้คำพิพากษา กรณี ลุงวิศวะ ยิงโจ๋อายุ 17 ดับ ที่จังหวัดชลบุรี เป็นจำคุก 3 ปี 4 เดือน ปรับ 2,000 บาท รอลงอาญา 3 ปี-คุมประพฤติ 2 ปี

ศาลจังหวัดชลบุรี นัดอ่านคำพิพากษาในชั้นศาลฎีกา คดีที่นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 56 ปี วิศวกรบริษัทฯ หรือ ลุงวิศวะ ตกเป็นจำเลย ในความผิดฐานพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร

และความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังจากที่ นายสุเทพ ยิง นายนวพล ผึ่งผาย วัยรุ่นอายุ 17 ปีเสียชีวิต จากเหตุวิวาทเรื่องที่จอดรถ เหตุเกิดใกล้ตลาดอ่างศิลา จ.ชลบุรี เมื่อค่ำวันที่ 4 ก.พ. 2560

โดย ศาลจังหวัดชลบุรี อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3544 / 2561 ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี โจทก์ นางสาวมณีพร ผึ้งผาย โจทก์ร่วม นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ จำเลย คดีสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2560

แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร